เจาะมาตรการภาษี 200% ที่ depa – กรมสรรพากร จะช่วยธุรกิจเล็กใช้ดิจิทัล SMEs ไทยได้ประโยชน์อะไรบ้าง ?

ประเทศไทยกำลังก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัล และหนึ่งในความท้าทายสำคัญคือการทำให้ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งเป็นกลุ่มหลักของเศรษฐกิจไทย ปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อแก้โจทย์นี้ depa (สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล) จึงร่วมกับ กรมสรรพากร ออกมาตรการใหม่ทางภาษี ที่เปิดโอกาสให้ SMEs สามารถหักภาษีได้ 2 เท่า (200%) จากค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นมาตรการที่มีผลกระทบเชิงบวกต่อทั้งฝั่งผู้ใช้งาน (SMEs) และฝั่งผู้พัฒนาเทคโนโลยีไทย จุดประสงค์หลักของมาตรการภาษี 200% ช่วยลดต้นทุนให้กับ SMEs ไทย โดยเฉพาะในเรื่องค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยี ซึ่งมักเป็นอุปสรรคสำหรับธุรกิจรายเล็ก เร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ส่งเสริมให้ธุรกิจใช้เทคโนโลยี เช่น ระบบบัญชีออนไลน์, IoT, ระบบจัดการร้านค้า ฯลฯ ผลักดันอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของไทย ด้วยการบังคับใช้มาตรฐาน ทำให้ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์/ฮาร์ดแวร์ไทยต้องพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐานสากล ใครใช้สิทธิมาตรการภาษี 200% ได้บ้าง?…

Fuel prices cut due to value-added tax reduction

Retail fuel prices have been lowered starting Tuesday as a National Assembly resolution on value-added tax reduction took effect.Retail fuel prices have been lowered starting Tuesday as a National Assembly resolution on value-added tax reduction took effect.   VnExpress English

depa พลิกโฉมกำลังคนไทย ชู “Digital Skill Roadmap” ปั้นคนดิจิทัล 1 ล้านคน ดึง Global Tech ร่วมพัฒนาทักษะ

ดีป้า เดินหน้ากลไก Digital Skill Roadmap รุกเปิด 100 หลักสูตรแรกที่ขึ้นทะเบียน พร้อมจับมือ กรมสรรพากร ช่วยผู้ประกอบการไทยสร้างกำลังคนและบุคลากรดิจิทัล มอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้ประกอบการที่ส่งพนักงานร่วมอัปสกิลในหลักสูตรต่าง ๆ หรือจ้างงานผู้ที่มีทักษะดิจิทัลตาม Digital Skill Roadmap ตอบโจทย์การขาดแคลนกำลังคนดิจิทัลของประเทศ เติมเต็มความต้องการบุคลากรดิจิทัล โดยผู้ที่สนใจสามารถดูหลักสูตรที่ขึ้นทะเบียน Digital Skill Roadmap และกดรับคูปองได้ที่แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ หรือ ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า แถลงกรอบแนวทางการพัฒนาทักษะดิจิทัลสำหรับคนไทย (Digital Skill Roadmap) โดยได้รับเกียรติจากผู้บริหารเครือข่ายพันธมิตรภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษาร่วมงานโดยพร้อมเพรียง…

แบคทีเรีย E.coli เปลี่ยนขยะพลาสติก เป็นพาราเซตามอลได้จริง!

ใครจะคิดว่า “ขวดพลาสติกใช้แล้ว” ที่เราทิ้งกันทุกวันจะกลายมาเป็น “ยาพาราเซตามอล” ที่เรากินเวลาเป็นไข้ได้?  ทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเอดินบะระ (University of Edinburgh) ประเทศอังกฤษ พัฒนาเทคนิคสุดล้ำที่เปลี่ยนพลาสติก PET ที่ใช้ทำขวดน้ำและบรรจุภัณฑ์อาหารให้กลายเป็น พาราเซตามอล หรือ อะเซตามิโนเฟน ยาแก้ปวดที่คนทั่วโลกคุ้นเคย สิ่งที่น่าทึ่งคือวิธีนี้ไม่ต้องใช้กระบวนการผลิตจากน้ำมันหรือเชื้อเพลิงสักนิดแถมยังทำได้ภายใต้อุณหภูมิห้องในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง และไม่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เลย กระบวนการ “เปลี่ยนขยะให้เป็นยา” ทำได้อย่างไร ?  กระบวนการเริ่มจากการนำขวดพลาสติก PET ที่ผ่านการบำบัดทางเคมีแล้วมาให้แบคทีเรีย E. coli ที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมย่อยสลายพลาสติกนี้จนได้ “กรดเทเรฟทาลิก”  จากนั้น กรดเทเรฟทาลิกจะถูกแปรสภาพเป็นสารตั้งต้นชนิดหนึ่ง ผ่านปฏิกิริยาเคมีที่เรียกว่า Lossen rearrangement ซึ่งเป็นกระบวนการที่ช่วยเปลี่ยนสารเคมีชนิดหนึ่งให้กลายเป็นสารอีกชนิดหนึ่งที่ต้องการใช้ในกระบวนการผลิตยา ผลจากปฏิกิริยานี้ทำให้เกิดสารที่ชื่อว่า para-aminobenzoic…