
Intel ประกาศปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ โดยตั้งเป้าลดพนักงานประมาณ 24,000 คนภายในสิ้นปี คิดเป็นเกือบหนึ่งในสี่ของพนักงานเดิมที่มีอยู่ราว 99,500 คน ซึ่งจะทำให้สิ้นปีนี้ Intel เหลือพนักงานอยู่เพียงประมาณ 75,000 คน
ซึ่งเดือนเมษายนที่ผ่านมา Intel ยังบอกว่า “ไม่ได้ตั้งเป้าการลดจำนวนพนักงาน” แต่ในความเป็นจริงบริษัทได้เริ่มทยอยปลดพนักงานไปแล้วหลายพันตำแหน่งและล่าสุดก็ยืนยันชัดว่าแผนนี้คือส่วนหนึ่งของการทำให้บริษัทคล่องตัวขึ้น
เบรกแผนลงทุนขนาดใหญ่ในยุโรปและสหรัฐ
Intel ยกเลิกแผนสร้าง mega-fab หรือโรงงานผลิตชิปขนาดใหญ่ในเยอรมนีและโปแลนด์ ซึ่งเดิมทีจะจ้างพนักงานรวมกันกว่า 5,000 คน ทั้งในส่วนการผลิตและศูนย์ประกอบและทดสอบ โดยยืนยันว่าจะไม่ดำเนินโครงการอีกต่อไปและดูเหมือนจะยกเลิกแผนทั้งหมด แต่ในโปแลนด์ Intel ยังคงมีศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) อยู่และยังไม่ได้ระบุว่าจะปิดกิจการในส่วนนั้น
ในฝั่งคอสตาริกา Intel จะ ปิดสายการผลิตด้าน assembly and test แล้วย้ายไปยังเวียดนามโดยยังคงพนักงานสายวิศวกรรมและฝ่ายบริหารราว 2,000 คนไว้ตามเดิม
ส่วนในสหรัฐฯ ก็มีการ ชะลอการก่อสร้างโรงงานในโอไฮโอ เพื่อให้การใช้จ่ายสอดคล้องกับดีมานด์ของตลาด แม้จะยังคงเดินหน้าลงทุนในพื้นที่ต่อไป
CEO เดินหน้าปรับองค์กร
Lip-Bu Tan ซีอีโอคนใหม่ของ Intel กล่าวว่าที่ผ่านมา Intel ทุ่มเงินสร้างโรงงานไว้มากเกินไปทั้งที่ยังไม่มีความต้องการที่ชัดเจนจากลูกค้าและโรงงานหลายแห่งก็อยู่กระจัดกระจายโดยไม่จำเป็น ตอนนี้เขาต้องการให้การขยายกำลังผลิตเกิดขึ้น ตามแผนที่ชัดเจนและสอดคล้องกับความต้องการจริง
เราจะไม่รีบสร้างโรงงานก่อน โดยที่ยังไม่รู้ว่าลูกค้าจะมาเมื่อไหร่ จากนี้ไปเราจะลงทุนเท่าที่จำเป็น ตามความต้องการของลูกค้า Lip-Bu Tan กล่าว
ก่อนหน้านี้ Intel ก็เพิ่งปิดธุรกิจผลิตชิปสำหรับรถยนต์ และปลดพนักงานโรงงานผลิตซิลิคอนลงถึง 20% พร้อมแยกธุรกิจ RealSense ออกไปต่างหาก
รายได้ทรงตัว แต่ยังขาดทุน
แม้พยายามลดต้นทุนอย่างหนัก แต่ไตรมาสล่าสุด Intel ยัง ขาดทุนสุทธิ 2.9 พันล้านดอลลาร์ จากรายได้ 12.9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งแทบไม่เปลี่ยนจากปีก่อน โดยการปรับโครงสร้างและเลย์ออฟครั้งนี้ ทำให้บริษัทแบกรับค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีก 1.9 พันล้านดอลลาร์
สรุปภาพรวมรายได้รายกลุ่ม
- Data Center โตขึ้น 4% อยู่ที่ 3.9 พันล้านดอลลาร์
- ชิปสำหรับพีซี ลดลง 3% เหลือ 7.9 พันล้านดอลลาร์
- ธุรกิจ foundry (รับจ้างผลิตชิป) โตขึ้น 3% เป็น 4.4 พันล้านดอลลาร์
Intel ยังตั้งเป้าจะลดค่าใช้จ่ายรวม 17 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2025
ดันชิปรุ่นใหม่ หวังพลิกเกม
แม้กำลังอยู่ระหว่างปรับโครงสร้าง Intel ยังยืนยันว่า Panther Lake ชิปรุ่นใหม่สำหรับแล็ปท็อป จะเริ่มส่งมอบภายในปีนี้ และจะมีรุ่นอื่นตามมาในช่วงครึ่งปีแรกของ 2026
ส่วน Nova Lake รุ่นต่อไปก็ยังอยู่ในแผนสำหรับปลายปี 2026 โดย Tan ระบุว่า ได้แก้ไขข้อจำกัดเดิมเกี่ยวกับ multi-threading แล้ว นอกจากนี้
เขายังกำหนดกฎใหม่ว่าชิปตัวสำคัญของบริษัททุกตัวจะต้องได้รับการอนุมัติจากเขาโดยตรงก่อนเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายก่อนเริ่มการผลิตจริง นอกจากนี้ Intel ยังเตรียมเร่งเดินหน้าผลิต Lunar Lake ซึ่งเป็นชิปรุ่นที่ได้รับความสนใจสูง แม้เคยมีต้นทุนการผลิตค่อนข้างแพงเพื่อให้พร้อมส่งมอบภายในไตรมาสถัดไป
Lip-Bu Tan ยังเผยว่า Intel จะประกาศผู้นำคนใหม่ของฝ่าย Data Center ในไตรมาสหน้าและเตรียมเปิดตัวกลยุทธ์ AI แบบครบวงจรภายในไม่กี่เดือนข้างหน้าด้วย
บทสรุป
การปลดพนักงานครั้งใหญ่และการล้มแผนลงทุนหลายโครงการทั่วโลก เป็นสัญญาณชัดเจนว่า Intel กำลังเข้าสู่ยุคใหม่ที่ต้องการให้ธุรกิจคล่องตัวขึ้น เพื่อกลับมาแข่งขันได้ในยุค AI
อ้างอิง: theverge
Intel ประกาศปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ โดยตั้งเป้าลดพนักงานประมาณ 24,000 คนภายในสิ้นปี คิดเป็นเกือบหนึ่งในสี่ของพนักงานเดิมที่มีอยู่ราว 99,500 คน ซึ่งจะทำให้สิ้นปีนี้ Intel เหลือพนักงานอยู่เพียงประมาณ 75,000 คน News Techsauce