Apple ปล่อย 2 ฟีเจอร์สุขภาพ ตรวจจับ ‘ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ’ และเปลี่ยน AirPods Pro เป็น ‘เครื่องช่วยฟัง’ ในประเทศไทยแล้ว

Sleep Apnea

Apple เดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ ประกาศเปิดตัวชุดฟีเจอร์สุขภาพครั้งใหญ่บนอุปกรณ์สวมใส่ยอดนิยมอย่าง Apple Watch และ AirPods Pro 2 โดยมีไฮไลต์สำคัญคือฟีเจอร์แจ้งเตือน ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) บน Apple Watch และการพลิกโฉม AirPods Pro 2 ให้กลายเป็นเครื่องช่วยฟังระดับคลินิกที่เข้าถึงง่าย นับเป็นก้าวสำคัญที่อาจเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนนับพันล้านคนทั่วโลก

Apple Watch: ผู้ช่วยเฝ้าระวัง ‘ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ’ จากข้อมือของคุณ

ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) เป็นความผิดปกติทางการหายใจที่การหายใจหยุดชะงักซ้ำๆ ระหว่างการนอนหลับ ซึ่งส่งผลให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ คาดการณ์ว่ามีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะนี้มากกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก และส่วนใหญ่มักไม่เคยได้รับการวินิจฉัย หากปล่อยทิ้งไว้อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพร้ายแรง เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวานประเภท 2 และโรคหัวใจApple ได้พัฒนานวัตกรรมใหม่เพื่อรับมือกับปัญหานี้โดยตรง

การทำงานของฟีเจอร์:

  • Breathing Disturbances Metric: Apple Watch จะใช้เซ็นเซอร์ Accelerometer (มาตรวัดความเร่ง) เพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ ที่ข้อมือ ซึ่งสัมพันธ์กับการหยุดชะงักของรูปแบบการหายใจปกติขณะนอนหลับ
  • การวิเคราะห์และแจ้งเตือน: ระบบจะรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลการรบกวนการหายใจของคุณเป็นระยะเวลา 30 วัน หากพบรูปแบบที่สอดคล้องกับสัญญาณของภาวะหยุดหายใจขณะหลับในระดับปานกลางถึงรุนแรงอย่างต่อเนื่อง Apple Watch จะส่งการแจ้งเตือนให้คุณทราบ เพื่อให้คุณสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาต่อไป
  • ข้อมูลเชิงลึกในแอป Health: ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลการรบกวนการหายใจ (Breathing Disturbances) ในแต่ละคืนได้ในแอป Health บน iPhone ซึ่งจะแสดงผลเป็น “สูง” (Elevated) หรือ “ไม่สูง” (Not Elevated) พร้อมดูกราฟย้อนหลังได้ 1 เดือน, 6 เดือน และ 1 ปี
  • ส่งออกรายงาน PDF: เพื่อการสื่อสารกับบุคลากรทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ผู้ใช้สามารถส่งออกรายงานในรูปแบบ PDF ที่แสดงข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับช่วงเวลาที่อาจเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ และข้อมูลการรบกวนการหายใจย้อนหลัง 3 เดือนได้

ฟีเจอร์นี้ได้รับการพัฒนาโดยใช้ Machine Learning ขั้นสูงและชุดข้อมูลขนาดใหญ่จากการทดสอบภาวะหยุดหายใจขณะหลับในระดับคลินิก ทำให้มีความน่าเชื่อถือสูง

สิ่งที่ต้องมีเพื่อใช้งานฟีเจอร์ Sleep Apnea Notifications:

  • Apple Watch Series 9 หรือใหม่กว่า หรือ Apple Watch Ultra 2 ที่ใช้ watchOS เวอร์ชันล่าสุด
  • iPhone ที่อัปเดตเป็น iOS เวอร์ชันล่าสุด
  • ต้องตั้งค่าการนอนหลับ (Sleep) และเปิดใช้งาน “Track Sleep with Apple Watch”
  • ต้องสวมใส่ Apple Watch นอนหลับอย่างน้อย 10 คืนภายในระยะเวลา 30 วัน
  • ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และยังไม่เคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

AirPods Pro 2: มิติใหม่ของสุขภาพการได้ยินแบบครบวงจร

Apple ไม่ได้หยุดแค่สุขภาพการนอน แต่ยังมอบประสบการณ์สุขภาพการได้ยินแบบ End-to-End เป็นครั้งแรกของโลก ผ่าน AirPods Pro 2 ครอบคลุมทั้งการป้องกัน การรับรู้ และการช่วยเหลือ

1. การป้องกัน (Prevention): Loud Sound Reduction

เพื่อลดการสัมผัสเสียงดังในสภาพแวดล้อมที่อาจทำลายการได้ยิน AirPods Pro 2 มาพร้อมฟีเจอร์ Loud Sound Reduction ที่ใช้ชิป H2 ในการลดเสียงดังที่รุนแรงลงแบบเรียลไทม์ 48,000 ครั้งต่อวินาที เมื่อเปิดใช้งานโหมด Transparency หรือ Adaptive Audio ช่วยให้คุณยังคงได้ยินเสียงรอบข้างอย่างเป็นธรรมชาติและปลอดภัยยิ่งขึ้น

2. การรับรู้ (Awareness): Hearing Test ระดับคลินิก

หลายคนสูญเสียการได้ยินอย่างช้าๆ โดยไม่รู้ตัว Apple จึงเปิดตัวฟีเจอร์ Hearing Test ที่ให้ผู้ใช้สามารถทดสอบการได้ยินของตนเองได้จากที่บ้าน โดยใช้เวลาเพียง 5 นาที ผ่าน AirPods Pro และ iPhone หรือ iPad ที่รองรับ การทดสอบนี้ใช้วิธีการเดียวกับมาตรฐานในคลินิก (Pure-tone audiometry) เมื่อเสร็จสิ้น ผู้ใช้จะได้รับผลสรุปที่เข้าใจง่าย พร้อม Audiogram ที่สามารถเก็บไว้ในแอป Health หรือแชร์ให้แพทย์ดูได้

3. การช่วยเหลือ (Assistance): ฟีเจอร์ Hearing Aid บน AirPods Pro

นี่คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุด AirPods Pro 2 สามารถเปลี่ยนเป็น เครื่องช่วยฟัง (Hearing Aid) ที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ได้ (Over-the-counter) สำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยินระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง

  • ฟีเจอร์นี้จะใช้โปรไฟล์การได้ยินที่ได้จาก Hearing Test มาปรับแต่งเสียงรอบข้างแบบไดนามิกให้เหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละคนแบบเรียลไทม์ ช่วยให้การสนทนาและการมีส่วนร่วมกับสิ่งแวดล้อมดีขึ้น
  • โปรไฟล์การได้ยินนี้จะถูกนำไปปรับใช้กับการฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกม และการโทรศัพท์โดยอัตโนมัติในทุกอุปกรณ์ของ Apple โดยไม่ต้องตั้งค่าใหม่

Sarah Herrlinger ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายนโยบายและการริเริ่มด้านการเข้าถึงทั่วโลกของ Apple กล่าวว่า “ฟีเจอร์เหล่านี้บน AirPods Pro จะสร้างผลกระทบต่อผู้คนจำนวนมาก โดยการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสุขภาพการได้ยินและมอบเครื่องมือใหม่ๆ ที่ปรับแต่งได้ เพื่อช่วยให้พวกเขายังคงเชื่อมต่อกับโลกรอบตัว”

ฟีเจอร์ Hearing Aid ได้เริ่มทยอยเปิดให้ใช้งานแล้วในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงสหรัฐอเมริกา, สหภาพยุโรป, ญี่ปุ่น และมาเลเซีย โดยผู้ใช้ในไทยสามารถรอติดตามการอัปเดตซอฟต์แวร์ในอนาคตอันใกล้นี้ได้

ที่มา: Macrumors และ Macrumors

Apple ปล่อยอัปเดตในไทย! Apple Watch สามารถตรวจจับสัญญาณความเสี่ยงภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) และ AirPods Pro 2 มาพร้อมฟีเจอร์ทดสอบการได้ยินและเครื่องช่วยฟังแล้ววันนี้  News Techsauce

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *