รู้จักพลังของ FlashSystem Grid ระบบจัดเก็บข้อมูลที่บริหารง่าย ใช้ทรัพยากรคุ้ม ขยายระบบได้ไม่มีสะดุด ก่อนข้อมูลจะโตแซงธุรกิจ

ทุกวันนี้ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไร หนึ่งในทรัพยากรที่เติบโตเร็วที่สุดในองค์กรก็คือ “ข้อมูล”

ข้อมูลจากระบบหลังบ้าน เช่น ฐานข้อมูลลูกค้า ข้อมูลธุรกรรม หรือระบบ ERP ต่าง ๆ ล้วนเป็นข้อมูลที่ต้องถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบ มีความต่อเนื่อง และเข้าถึงได้ตลอดเวลา

ซึ่งระบบจัดเก็บข้อมูลที่เคยเพียงพอในวันเริ่มต้นธุรกิจ กลับกลายเป็นอุปสรรคในวันที่ข้อมูลเพิ่มสูงมากขึ้น และที่สำคัญ…มันไม่ใช่แค่เรื่องของความจุอีกต่อไป แต่มันคือ ความยืดหยุ่น ความต่อเนื่อง และความฉลาดในการบริหารจัดการการจัดเก็บข้อมูล

ในยุคที่ข้อมูลเติบโตแบบก้าวกระโดด การจัดเก็บข้อมูลแบบเดิม ๆ อาจไม่เพียงพออีกต่อไป หลายองค์กรเริ่มมองหาการจัดเก็บข้อมูลที่มีความยืดหยุ่นสูง รองรับการขยายตัวอย่างไม่จำกัด และสามารถจัดการได้ง่ายขึ้น และนั่นคือ จุดเริ่มต้นของแนวคิดระบบ FlashSystem Grid ที่ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็วในสาย IT

รู้จัก FlashSystem Grid แนวความคิดใหม่ในการจัดเก็บข้อมูลที่คน IT พูดถึง

เมื่อข้อมูลกลายเป็นทรัพยากรที่มีค่าอันดับหนึ่งขององค์กร ความสามารถในการ “บริหารจัดการข้อมูล” จึงสำคัญยิ่งกว่าการมีเพียงพื้นที่จัดเก็บ ในขณะที่การจัดการ Storage System ทั่วไปยังมีข้อจำกัดทั้งในด้านการบริหารจัดการแบบรวมศูนย์ ความคุ้มค่าในการใช้พื้นที่การเก็บข้อมูล และขนาดความจุที่มีขีดจำกัด 

FlashSystem Grid จึงถูกออกแบบมาเพื่อทลายข้อจำกัดในการจัดการ Storage System ยกระดับการบริหารข้อมูลให้คล่องตัว ยืดหยุ่น และตอบสนองการเติบโตของธุรกิจได้อย่างแท้จริง

FlashSystem Grid ก็คือ แนวคิดที่รวมเอาความสามารถของ Storage, Virtualization, Automation และ Analytics เข้าไว้ในระบบเดียว เหมือนเป็นการรวมเครื่องเก็บข้อมูลหลายเครื่องเข้าด้วยกันให้กลายเป็นเหมือนระบบเดียว แต่ยังคงให้แต่ละเครื่องทำงานอย่างอิสระ และสามารถอัปเกรดหรือจัดการแยกได้ โดยเครื่องแต่ละตัวไม่จำเป็นต้องใช้รุ่นเดียวกัน ทำให้การลงทุนในระบบนี้มีความคุ้มค่า เพราะองค์กรสามารถใช้เครื่องที่มีอยู่แล้วร่วมกับเครื่องใหม่ได้ทันที โดยไม่ต้องเปลี่ยนระบบทั้งหมดใหม่

หนึ่งในจุดแข็งของ FlashSystem Grid คือ การบริหารจัดการแบบรวมศูนย์ (centralized management) ที่ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถควบคุมเครื่องหลายๆ ระบบให้เสมือนเป็นระบบเดียวกันภายใต้ Grid เดียวกันได้ โดยทั้งหมดสามารถจัดการได้จากหน้าจอเดียว ไม่ต้องจัดการแยกกัน อีกทั้งยังสามารถย้ายข้อมูลระหว่างเครื่องใน Grid ได้อย่างไร้รอยต่อ ลด Downtime ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่น่าสนใจคือ ทุกครั้งที่เพิ่มเครื่องใหม่เข้าไปใน Grid ไม่ว่าจะเพื่อเพิ่มความจุ เพิ่มความเร็ว หรือเพื่อเปลี่ยนเครื่องเก่า ก็จะเกิดการขยายศักยภาพของระบบแบบอัตโนมัติ ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและความจุ  รวมไปถึง จำนวน snapshot หรือ volume ที่สามารถสร้างได้

ข้อมูลทั้งหมดใน FlashSystem Grid จะถูกจัดวางในสิ่งที่เรียกว่า Storage Partition โดยแต่ละ Storage Partition จะประกอบไปด้วย พื้นที่ในการจัดเก็บ (Volume), การจับคู่ระหว่าง Host และ Volume (Host Mapping) ทำให้ง่ายในการจัดการ มีความปลอดภัย และสอดคล้องกับทรัพยากรที่มีอยู่ การโยกย้ายข้อมูลสามารถทำได้ด้วยคลิกเดียว ลดความซับซ้อนและความผิดพลาดจากการจัดการแบบแมนนวล

ทั้งหมดนี้ทำให้ FlashSystem Grid และ Storage Partition กำลังกลายเป็นหัวใจของระบบจัดการข้อมูลยุคใหม่ ที่ทั้งยืดหยุ่น ฉลาด และพร้อมไปต่อกับธุรกิจในทุกสถานการณ์

IBM FlashSystem Grid ทางเลือกใหม่ขององค์กรยุค AI

สำหรับองค์กรที่กำลังมองหาระบบจัดเก็บข้อมูลที่พร้อมรองรับอนาคต IBM FlashSystem Grid คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่ “ฉีกแนว” จากระบบการจัดการ Storage แบบเดิมๆ 

IBM FlashSystem Grid คือการยกระดับการจัดเก็บข้อมูลจากเดิม ไปสู่โครงสร้างพื้นฐานที่ฉลาด ยืดหยุ่น และจัดการได้ง่ายในระดับองค์กร โดยใช้เทคโนโลยี Virtualization, Analytics และ Automation เข้ามาช่วยตัดสินใจ และทำงานแทนมนุษย์ในหลายส่วน

ในภาพนี้จะแสดงให้เห็นถึงการทำงานของ FlashSystem Grid ที่แบ่งออกเป็น 3 ชั้นสำคัญ ได้แก่ Analytics, Automation และ Infrastructure โดยแต่ละชั้นมีบทบาทร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ดังนี้:

1. ชั้น Analytics

อยู่ด้านบนสุดของภาพ ทำหน้าที่เหมือนสมองของระบบ โดยใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (predictive analytics) จาก Storage Insights Pro เพื่อ:

  • คาดการณ์ความต้องการด้านพื้นที่จัดเก็บล่วงหน้า วิเคราะห์แนวโน้มของข้อมูลเพื่อเตรียมทรัพยากรไว้ล่วงหน้า ทำให้ระบบไม่เกิดคอขวด และรองรับการใช้งานได้อย่างลื่นไหล
  • เลือกที่จัดเก็บให้ตรงจุด ตอบโจทย์ทุกงาน ช่วยแนะนำและเลือกตำแหน่งจัดเก็บข้อมูลให้เหมาะสมกับความจุและประสิทธิภาพที่สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละ workload ลดภาระในการตัดสินใจจากผู้ดูแลระบบ และช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา

2. ชั้น Automation 

ชั้นกลางของภาพคือการบริหารจัดการข้อมูลแบบอัตโนมัติ โดยมี Partition กระจายอยู่ทั่ว ซึ่งแต่ละพาร์ทิชันคือกลุ่มของข้อมูลที่จัดการได้อย่างยืดหยุ่น โดยระบบสามารถ:

  • ย้ายข้อมูลข้ามเครื่องแบบไม่สะดุด ข้อมูลสามารถถูกย้ายไปยังเครื่องอื่นโดยไม่กระทบกับการใช้งาน เช่น ระหว่างช่วงที่ต้องทำการบำรุงรักษาหรือเปลี่ยนฮาร์ดแวร์
  • บริหารจัดการระบบแบบ fleet-wide ไม่ว่าองค์กรจะมีอุปกรณ์กี่เครื่องก็ตาม ระบบนี้สามารถควบคุมได้ทั้งหมดจากจุดเดียว ทั้งการดูสถานะ การตั้งค่า หรือการตรวจสอบทรัพยากร

3. ชั้น Infrastructure 

ชั้นล่างสุดคือฮาร์ดแวร์ที่ใช้จริงในระบบ โดยสามารถประกอบไปด้วยอุปกรณ์หลายรูปแบบ ทั้งของ IBM เอง (FlashSystem) และของแบรนด์อื่นที่ไม่ใช่ IBM ซึ่งสามารถ :

  • รองรับความหลากหลายของอุปกรณ์ คุณสามารถนำอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นของ IBM หรือไม่ มาทำงานร่วมกันในระบบเดียวได้ รองรับการใช้งานกับ IBM Storage ทั้ง Flashsystem 5300, Flashsystem 7300, Flashsystem 9500 หรือ Non-IBM Storage ผ่าน การทำงาน Storage Virtualization หรือ SVC ได้

จุดแข็งของ FlashSystem Grid

  • 20% x More Capacity มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน สามารถโยกย้ายข้อมูลข้ามกันได้ ทำให้ ขยายความจุได้มาก 20% ใช้รองรับการเติบโตของข้อมูลหรือมีพื้นที่ในการทำ backup เพิ่มขึ้น
  • 40% Less Effort ระบบอัตโนมัติช่วยลดภาระงานของทีม IT ลงได้กว่า 40% โดยเฉพาะในการวางแผน จัดสรรพื้นที่ และเคลื่อนย้ายข้อมูล
  • 100% Availability ข้อมูลพร้อมใช้งานตลอดเวลา แม้จะมีกาเรเพิ่มอุปกรณ์ใหม่ เปลี่ยนอุปกรณ์เก่า หรือปรับแต่งระบบใด ๆ ก็ยังไม่ต้องหยุดการทำงาน

ซึ่งสามารถรองรับการเติบโตในระยะยาว พร้อมเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ให้ทันสมัยได้เสมอผ่านบริการ IBM Storage Assurance โดยไม่ต้องรื้อระบบเดิมทิ้ง

เพราะในวันที่ข้อมูลไม่ใช่เพียงแค่ทรัพยากรสนับสนุน แต่กลายเป็นหัวใจหลักของการดำเนินธุรกิจ ความสามารถในการจัดเก็บอย่างเดียวไม่เพียงพออีกต่อไป องค์กรจำเป็นต้องมีระบบที่สามารถปรับตัวได้ต่อเนื่อง พร้อมรองรับความซับซ้อนและการเติบโตแบบไม่มีจุดสิ้นสุด

FlashSystem Grid จึงเป็นมากกว่าเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลทั่วไป มันคือแนวคิดใหม่ในการออกแบบโครงสร้างข้อมูลขององค์กร ให้มีความยืดหยุ่น ฉลาด คล่องตัว และไม่ผูกติดกับข้อจำกัดเดิมของระบบเก่า ด้วยความสามารถในการบริหารแบบรวมศูนย์ ย้ายข้อมูลได้โดยไม่สะดุด และรองรับอุปกรณ์หลากหลาย 

ระบบนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับยุคที่ธุรกิจต้องการเคลื่อนที่เร็ว ปรับตัวไว และพร้อมรับมือกับข้อมูลในทุกมิติ

เพราะสุดท้ายแล้ว ไม่ใช่แค่ใครมีข้อมูลมากที่สุดที่จะชนะ แต่คือใครที่ “บริหารข้อมูลได้ดีที่สุด” และ FlashSystem Grid กำลังกลายเป็นคำตอบขององค์กรที่ต้องการวางรากฐานให้แข็งแรง พร้อมเติบโตในทุกจังหวะของอนาคต

สำหรับผู้ที่สนใจโซลูชัน IBM FlashSystem หรือระบบ Storage ใดๆ จาก IBM สามารถติดต่อทีมงาน Datapro Computer System หรือ DCS ได้ทันทีที่

  • คุณดวงเดือน ชัยศรีสุขอัมพร

หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ DCS ได้ที่ https://www.datapro.co.th

รู้จัก IBM FlashSystem Grid ระบบจัดเก็บข้อมูลอัจฉริยะที่บริหารง่าย ใช้ทรัพยากรคุ้มค่า ขยายระบบได้ไม่สะดุด พร้อมรองรับการเติบโตของข้อมูลในยุค AI อย่างไร้ขีดจำกัด  Tech & Biz Techsauce

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *