Lawrence Wong เตือนประเทศเล็ก ต้องรวมพลัง มิฉะนั้นจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง โลกไม่รอแล้ว

หนึ่งในช่วงสำคัญของงาน World Economic Forum: Annual Meeting of the New Champions ที่จัดขึ้นที่เมืองเทียนจิน ประเทศจีน คือคำปราศรัยของ Lawrence Wong นายกรัฐมนตรีของ Singapore ที่กล่าวถึงความท้าทายระดับโลก และแนวทางที่ประเทศของเขาและภูมิภาค ASEAN ต้องปรับตัวเพื่ออยู่รอดในยุคที่ระบบการค้าโลกกำลังสั่นคลอน

Wong เตือนว่า “Global rules are weakening, global institutions are weakening and economic nationalism is replacing win-win cooperation” หรือก็คือ กฎเกณฑ์ระดับโลกและองค์กรระหว่างประเทศกำลังอ่อนแอลง ขณะที่ลัทธิชาตินิยมทางเศรษฐกิจกำลังเข้ามาแทนที่ความร่วมมือที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์

หรือจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ ถึงประเด็นที่ Wong ต้องการจะสื่อก็คือ ระบบการค้าโลกกำลังมีปัญหา กฎเกณฑ์ต่าง ๆ เริ่มอ่อนแอ และหลายประเทศเริ่มหันมาคิดถึงผลประโยชน์ของตัวเองมากกว่าความร่วมมือกับประเทศอื่น

นั่นทำให้เขามองว่าทางรอดของประเทศเล็ก คือ การพึ่งพาความร่วมมือในภูมิภาค

ประเทศเล็ก ต้องอาศัยพลังจากเพื่อนบ้าน

ด้วยขนาดที่เล็กและอำนาจต่อรองที่จำกัด Wong ชี้ว่า Singapore จำเป็นต้องพึ่งพาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและระดับโลก เขาเน้นว่าการรวมพลังใน ASEAN เป็นทางออกที่สำคัญ

“เรากำลังหาวิธีรวม ASEAN ให้แน่นแฟ้นขึ้น เพื่อสร้างตลาดเดียวที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้นสำหรับนักลงทุน” Wong กล่าว 

ทำไมASEAN ถึงสำคัญ ?

ASEAN ประกอบด้วย บรูไน, กัมพูชา, อินโดนีเซีย, ลาว, มาเลเซีย, เมียนมา, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ไทย และเวียดนาม ซึ่งมี GDP รวมกันราว 3.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก และคาดว่าจะเติบโตที่ 4.7% ในปี 2025 เทียบกับค่าเฉลี่ยโลกที่ประมาณ 2.8%

แม้ในวันนี้ ASEAN แทบไม่มีภาษีการค้าระหว่างกัน แต่ Wong ระบุว่า อุปสรรคที่แท้จริงอยู่ที่ non-tariff barriers เช่น ความไม่สอดคล้องของกฎระเบียบและระบบการชำระเงิน ซึ่งประเทศสมาชิกกำลังร่วมมือกันเพื่อบูรณาการให้มากขึ้น

ตัวอย่างความร่วมมือที่สิงคโปร์เริ่มแล้ว

Wong ยกตัวอย่างว่าสิงคโปร์ได้ร่วมมือกับเวียดนามในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมกว่า 20 แห่งทั่วประเทศ 

และอีกหนึ่งความร่วมมือสำคัญคือ Johor-Singapore Special Economic Zone ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจร่วมกับมาเลเซีย ซึ่งมีขนาด 3,500 ตารางกิโลเมตร ที่ได้รับเงินลงทุนโครงสร้างพื้นฐานกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับนักลงทุน

Wong กล่าวว่า “หากเราไม่ร่วมมือกันในระดับภูมิภาคและระดับโลก จะยิ่งยากในการรับมือกับภัยร่วม เช่น โรคระบาด โลกร้อน หรือวิกฤตการเงิน”

อีกหนึ่งแกนสำคัญของกลยุทธ์นอกจากความร่วมมือรอบบ้านของตนเองแล้ว นั่นคือการใช้เทคโนโลยี AI เพื่อยกระดับเศรษฐกิจและสังคม ด้าน Wong ชี้ว่า จุดเน้นของสิงคโปร์คือการ “ทำให้ทุกคน ทุกบริษัท ใช้ AI ได้อย่างเต็มที่ ไม่ใช่แค่การตามล่าหาเทคโนโลยีล้ำหน้าเท่านั้น” เขาย้ำว่าเป้าหมายคือให้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเข้าถึงอย่างทั่วถึง

‘ไม่เลือกข้าง’ คือบทบาทของ ASEAN บนเวทีโลก

เมื่อพูดถึงความตึงเครียดระหว่างมหาอำนาจ Wong แสดงจุดยืนชัดว่า Singapore ไม่ต้องการเลือกข้าง ระหว่างสหรัฐฯ และจีน แต่จะพยายามรักษาความสัมพันธ์ที่ดีและสร้างความร่วมมือกับทั้งสองฝ่าย

เขากล่าวว่า “เราต้องการเป็นมิตรกับทั้งอเมริกาและจีน… ร่วมมือกันในประเด็นที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์”

เช่นเดียวกัน ASEAN ก็ยึดหลักการเดียวกันนี้ โดย Wong เน้นว่า “เราปฏิเสธการแข่งขันแบบได้คนหนึ่งเสียคนหนึ่ง (zero-sum)… ASEAN มีความสามารถที่จะกำหนดอนาคตของตนเอง” เขายังเตือนด้วยว่า ASEAN เคยเป็น สนามรบตัวแทนในช่วงสงครามเย็น และกล่าวว่า “เราไม่ต้องการให้เรื่องนั้นเกิดขึ้นอีก”

อ้างอิง: weforum

Lawrence Wong นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ เตือนชัดบนเวที WEF ที่จีน ASEAN ต้องรวมพลัง รับมือเศรษฐกิจโลกปั่นป่วน ไม่งั้นประเทศเล็กจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง พร้อมแนะใช้ AI เป็นตัวช่วยรอดยุคใหม่  News Techsauce

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *