How to สร้างแบรนด์ให้คนจำ เริ่มจากศูนย์ยังไงให้คนพูดถึงและอยากติดตาม ฉบับ CK

หลายคนเข้าใจว่า “การสร้างแบรนด์” คือเรื่องของการตลาด แต่ CK บอกไม่ใช่ “แบรนด์ที่แท้จริงคือสิ่งที่ลูกค้าพูดถึงคุณเมื่อคุณไม่อยู่”

CK ยกตัวอย่าง “ทองสมิทธ์” ที่ไม่ได้ดังเพราะยิงโฆษณาหนัก แต่เพราะรสชาติที่คนพูดถึงต่อ ๆ กัน หรืออย่าง ChatGPT ที่คนใช้งานแล้วบอกต่อ เพราะมันช่วยให้ชีวิตสะดวกขึ้น ไม่ใช่เพราะมี influencer รีวิว

สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า “สินค้า” ที่ดี คือหัวใจของการสร้างแบรนด์ CK บอกว่าคอนเทนต์ที่เขาสร้างออกมา ก็เป็นสินค้าเช่นกัน การที่เขาพูดเนื้อหาที่ยากๆ อย่างการเงินและสังคมให้เข้าใจง่าย นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผู้คนจดจำเขา

CK เน้นย้ำว่าการตลาดอาจทำให้คนรู้จักคุณครั้งแรก แต่ “สินค้า” คือสิ่งที่ทำให้คนกลับมาและบอกต่อ อย่างที่ยกตัวอย่างไป ถ้าก๋วยเตี๋ยวไม่อร่อยจริง หรือ ChatGPT ใช้แล้วไม่เวิร์ก คนจะจำคุณไปในทางไหน?

ในฐานะคอนเทนต์ครีเอเตอร์ CK มองว่าา “คอนเทนต์” ไม่ใช่แค่เครื่องมือทางการตลาด แต่คือ “สินค้า” ที่ผู้ชมเลือกบริโภค ถ้าเนื้อหาไม่น่าสนใจ ไม่มีประโยชน์ ภาพลักษณ์ดีแค่ไหนก็ไร้ความหมาย คนไม่จำ ไม่ดึงดูดให้ติดตาม

ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มสร้างแบรนด์ สิ่งสำคัญคือการตั้งคำถามว่า คุณกำลังแก้ไขปัญหาอะไรให้กับคนในสังคม? เพราะเสียงบ่นของคนรอบข้าง คือโอกาสทางธุรกิจและหากคุณสามารถตอบโจทย์ปัญหานั้นได้ ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะตามมาเองและคุณจะเป็นหัวแถวทันที 

CK ได้แบ่งสินค้าออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. Free Product 2. Purchasable Goods & Services

1. Free Product หรือการสร้างคอนเทนต์ 

CK ใช้ 5 ตัวชี้วัดเพื่อประเมินคอนเทนต์ว่าดีหรือไม่ดี 

  • ไลก์น้อย =คอนเทนต์ยังไม่โดน
  • คอมเมนต์น้อย =คอนเทนต์ยังไม่เข้าถึงความรู้สึกของผู้คน
  • ยอดดูน้อย = Hook ไม่ดี หรือ Art Direction อาจยังไม่ใช่
  • ยอดแชร์น้อย = คอนเทนต์ยังไม่สร้างความรู้สึกร่วม เข้าไม่ถึงอารมณ์ของผู้คน
  • ยอด Save น้อย = คอนเทนต์ยัง “ไม่มีคุณค่า” พอให้เก็บไว้ดูซ้ำ ซึ่ง CK บอกสิ่งนี้สำคัญสุด หากคอนเทนต์มียอด Save และ Share สูง นั่นคือสัญญาณว่าคุณมาถูกทางแล้ว

CK ยังย้ำถึงความสำคัญของการ สังเกต คอนเทนต์ที่ขึ้นฟีด ไม่ใช่แค่ไถผ่านเฉยๆ ให้ตั้งคำถามว่าทำไมคอนเทนต์นั้น ถึงขึ้นฟีด ทำไมคนถึงดูเยอะ คอมเมนต์เยอะ เขาใช้กล้อง ไมค์ หรือ Art Direction แบบไหน เพราะนั่นจะช่วยพัฒนาศักยภาพในการสร้างคอนเทนต์ของคุณอย่างมหาศาล

การมีจุดยืน = มีแบรนด์ที่ชัดเจน

ในมุมมองของ CK การมี “ศัตรู” ไม่ได้หมายถึงการสร้างความขัดแย้ง แต่คือการมี จุดยืนที่ชัดเจน ในสิ่งที่คุณเชื่อหรือนำเสนอ เพราะหากคุณไม่มีจุดยืนที่ชัดเจน ผู้คนก็จะไม่จดจำ

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่การถูกเกลียด แต่คือการถูกลืม

การที่คุณมีจุดยืนจะสร้างความแตกต่างและดึงดูดผู้คนที่มีแนวคิดเดียวกันให้เข้ามาเป็น Community แม้จะมีคนที่ไม่เห็นด้วย แต่ความรักและความเกลียดนั้นย่อมดีกว่าการเป็นที่จดจำไม่ได้ – CK กล่าว

ถ้าคุณมั่นใจในคุณภาพของคอนเทนต์แล้ว ต้องสร้างมันอย่างต่อเนื่อง เพราะเรื่องจำนวนคอนเทนต์ก็สำคัญCK แนะนำหลัก 13-13 คือ ผู้ชมต้องใช้เวลาอยู่กับคุณอย่างน้อย 13 ชั่วโมงภายใน 13 เดือน เพื่อให้แบรนด์คุณซึมเข้าใจคนดูแบบยาว ๆ ซึ่งสิ่งนี้ยังเป็นเหตุผลที่  Long-form content ยังคงมีมูลค่า เพราะสร้างความสัมพันธ์กับผู้ชมได้ดีกว่า สุดท้ายการ Collab ก็สำคัญ การคอลแลปไม่ใช่แค่เพิ่มยอด แต่คือการขยาย “เสียงของแบรนด์” ไปสู่ลูกค้าใหม่ ๆ 

2. Purchasable Goods & Services 

สินค้าที่ทดแทนได้ง่าย 

หากสินค้าของคุณอยู่ในหมวดนี้ เช่น ร้านอาหาร เครื่องดื่ม หรือเครื่องสำอาง ที่มีตัวเลือกในตลาดเยอะและลูกค้าสามารถหาสิ่งทดแทนได้ง่าย สิ่งสำคัญคือการ “สร้างความลำเอียง” ให้กับลูกค้า 

CK ยกตัวอย่าง แก้วเก็บอุณหภูมิ Stanley ที่พลิกโฉมจากการขายแก้วสำหรับผู้ชายสายลุย มาเป็นการเจาะกลุ่มผู้หญิงด้วยดีไซน์และสีสันที่น่ารัก ทำให้แก้วไม่ได้เป็นแค่ภาชนะใส่เครื่องดื่ม แต่กลายเป็น “แรงบันดาลใจในการกินน้ำ” ที่สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์และแฟชั่น ซึ่งทำให้ลูกค้าเต็มใจที่จะจ่ายในราคาสูงกว่า 

สินค้าที่เป็นนวัตกรรมเปลี่ยนโลก 

สำหรับสินค้าหรือบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ยังไม่มีใครทำ CK แนะนำให้ Incorporate AI เข้ามาในธุรกิจ ไม่ใช่แค่การนำ AI มาใช้ในส่วนของการทำงานเบื้องหลัง แต่ต้องนำมาใช้ในส่วนที่ลูกค้าสามารถสัมผัสได้โดยตรงเพื่อ สร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า

หลายคนเข้าใจว่า “การสร้างแบรนด์” คือเรื่องของการตลาด แต่ CK บอกไม่ใช่ “แบรนด์ที่แท้จริงคือสิ่งที่ลูกค้าพูดถึงคุณเมื่อคุณไม่อยู่”  Saucy Thoughts Techsauce

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *