World Economic Forum ได้มีการทำรายงานเผยถึง 10 Emerging Technologies หรือเทคโนโลยีเกิดใหม่ โดยมี 10 เรื่องดังนี้
Structural battery composites
ลองจินตนาการว่าชิ้นส่วนตัวถังรถยนต์หรือเครื่องบิน ไม่ได้มีหน้าที่แค่รับน้ำหนัก แต่ยังสามารถเก็บพลังงานไฟฟ้าได้ในตัว
นี่คือแนวคิดการผสมวัสดุเข้าแบตเตอรี่เชิงโครงสร้าง (SBCs) รวมพลังงานและการจัดเก็บเข้าด้วยกันในวัสดุเดียว ซึ่งช่วยลดน้ำหนัก และปรับปรุงประสิทธิภาพในยานพาหนะ และเครื่องบินอย่างมาก ข้อดีที่สำคัญคือมีความยั่งยืน และประหยัดต้นทุนสูง
อย่างไรก็ตาม การนำมาใช้จริงในวงกว้าง ยังต้องเจอความท้าทายด้านประสิทธิภาพ ความปลอดภัย รวมถึงการแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ
Autonomous biochemical sensing
เซ็นเซอร์ชีวเคมีอัจฉริยะ ที่สามารถตรวจจับ และวิเคราะห์ข้อมูลชีวเคมีได้แบบเรียลไทม์ และต่อเนื่องโดยที่ไม่ต้องใช้มนุษย์ควบคุม ด้วยการใช้ระบบไร้สาย ระบบ Autonomous และเครือข่ายเซ็นเซอร์
สามารถตรวจสอบการใช้งานต่างๆ เช่น การตรวจจับระดับน้ำตาลในเลือด หรือมลพิษได้ ความท้าทายที่สำคัญคือความถูกต้องของเซ็นเซอร์ และข้อกังวลด้านกฎระเบียบ
Osmotic power systems
เทคโนโลยีพลังงานเกลือ ที่ใช้หลักการทางธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าจากความต่างของความเค็มระหว่างน้ำจืดและน้ำเค็ม
เมื่อน้ำสองชนิดนี้มาเจอกันโดยมีเมมเบรนชนิดพิเศษกั้น จะเกิดแรงดันที่สามารถนำไปหมุนกังหันผลิตไฟฟ้าได้ ข้อดีคือมันเป็นพลังงานสะอาดที่ผลิตได้ต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง มีผลกระทบต่ำต่อสิ่งแวดล้อม ต่างจากพลังงานแสงอาทิตย์ และลมที่ผันผวมตามสภาพอากาศ
อย่างไรก็ตาม การนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ยังต้องเผชิญความท้าทายในเรื่องเทคนิค การขออนุญาต การประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสังคม ไปจนถึงการลงทุน
Green nitrogen fixation
การตรึงไนโตรเจนสีเขียว มีเป้าหมายเพื่อลดผลกระทบทางคาร์บอนจากการผลิตแอมโมเนียแบบที่ใช้ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตปุ๋ย
เทคโนโลยีนี้จะเข้ามาปฏิวัติวงการเกษตรด้วยการใช้พลังงานหมุนเวียน และกระบวนการทางชีวภาพในการเปลี่ยนไนโตรเจนในอากาศให้เป็นแอมโมเนีย ซึ่งจะช่วยลด Carbon Footprint ของภาคการเกษตรได้อย่างมหาศาล
แม้หลักของการตรึงไนโตรเจนจะมีมาตั้งแต่ช่วงปี 1930 แต่เพิ่งมีความก้าวหน้าอย่างมากในการนำไปใช้เชิงพาณิชย์ แต่ยังมีความท้าทายในเรื่องของข้อจำกัดทางด้านทรัพยากร เนื่องจากเทคโนโลยีนี้ต้องพึ่งพิงแร่ธาตุสำคัญอย่างลิเธียม รวมถึงความสามารถในการตรึงไนโตรเจนยังคงต้องได้รับการพิสูจน์
Advanced nuclear technologies
เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้น เทคโนโลยีนิวเคลียร์ขั้นสูง เช่น เครื่องปฏิกรณ์แบบโมดูลาร์ขนาดเล็ก (SMRs) และระบบระบายความร้อนที่ปรับปรุงแล้ว มีศักยภาพในการให้พลังงานที่ปลอดภัย สะอาด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
โดย World Economic Forum มองว่าการวิจัยฟิวชั่นยังคงเป็นเป้าหมายระยะยาวสำหรับอนาคตที่ปราศจากคาร์บอน
Nanozymes
นาโนเอนไซม์ คือวัสดุสังเคราะห์ระดับนาโนที่เลียนแบบเอนไซม์ธรรมชาติ มีประโยชน์ในการบำบัดโรคโดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท การวินิจฉัย และการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ
คาดว่าตลาดนาโนเอนไซม์จะสูงถึง 73.81 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2034 โดยในปัจจุบันการค้าขายกำลังเร่งตัวขึ้นอย่างมาก
Engineered living therapeutics
แทนที่จะกินยาหรือฉีดยา เทคโนโลยีนี้จะใช้จุลินทรีย์ที่ผ่านการดัดแปลงพันธุกรรมให้ทำหน้าที่เป็น โรงงานผลิตยาเคลื่อนที่ ภายในร่างกายของเรา
การบำบัดด้วยสิ่งมีชีวิตที่ผ่านการดัดแปลงเชิงวิศวกรรม (Engineered Living Therapeutics) คือแนวทางการรักษาแห่งอนาคต รวมทั้งความก้าวหน้าของเทคโนโลยีชีววิทยาสังเคราะห์ (Synthetic Biology) ทำให้การพัฒนาวิธีการรักษาแบบใหม่ๆ เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม แนวทางการรักษานี้ยังคงต้องการวิจัยที่เข้มข้น รวมถึงการอนุมัติจากการทดลองทางคลินิกในวงกว้างก่อนนำมาใช้จริง
Collaborative sensing
ในอนาคตอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีเซ็นเซอร์จะไม่ได้ทำงานอย่างโดดเดี่ยวอีกต่อไป แต่มันจะเชื่อมต่อ และแลกเปลี่ยนข้อมูลกันเพื่อสร้างความเข้าใจในภาพรวมที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
การเชื่อมโยงเซ็นเซอร์ในบ้าน เมือง และร่างกายเข้าด้วยกันแบบไร้สายและเรียลไทม์ จะช่วยให้สามารถตัดสินใจร่วมกันในหลากหลายสถานการณ์ เช่น การควบคุมการจราจร การจัดการสิ่งแวดล้อม และการจัดการพลังงาน
ความท้าทายที่สำคัญคือความปลอดภัยของข้อมูล และความต้องการการรวมระบบ
GLP-1s for neurodegenerative disease
ยากลุ่ม GLP-1s ซึ่งใช้สำหรับโรคเบาหวาน และโรคอ้วน กำลังถูกนำวิจัยเพื่อใช้ต่อสู้กับโรคความเสื่อมทางประสาท เช่น การรักษาโรคอัลไซเมอร์ และพาร์กินสัน
การศึกษาในปัจจุบันบ่งชี้ว่า ยาเหล่านี้มีคุณสมบัติพิเศษในการปกป้องเซลล์ประสาท โดยช่วยต้านอาการอักเสบของสมอง และปรับปรุงการทำงานของเซลล์ประสาท ซึ่งอาจเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยชะลอหรือปรับเปลี่ยนการลุกลามของโรคได้
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องมีการทดลองที่สำคัญ รวมถึงขั้นตอนการกำกับดูแลที่เข้มงวด เพื่อให้แน่ใจถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัย
Generative watermarking
Generative watermarking เป็นการฝังลายน้ำดิจิทัลที่มองไม่เห็นลงในสื่อต่างๆ เช่น ข้อความ รูปภาพ เสียง และวิดีโอเพื่อยืนยันความถูกต้อง และติดตามแหล่งที่มาได้
สิ่งนี้สามารถใช้เพื่อตรวจสอบเนื้อหาที่สร้างขึ้นด้วย AI และปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องแก้ไขข้อกังวลด้านความปลอดภัย และมาตรฐานทางจริยธรรม
สามารถอ่านรายงานฉบับเต็มได้จาก World Economic Forum
World Economic Forum ได้มีการทำรายงานเผยถึง 10 Emerging Technologies หรือเทคโนโลยีเกิดใหม่ โดยมี 10 เรื่องดังนี้ Tech & Biz Techsauce